จากผลการสำรวจของ www.webmetrics.info
เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา “Top University by
Google Scholar Citations” มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิตขยับตำแหน่งขึ้นมาอยู่ในลำดับที่
7 ของมหาวิทยาลัยเอกชนที่มีผู้สนใจเข้ามาสืบค้นงานเขียนด้านวิชาการ
งานวิจัย ต่างๆ โดยผ่านจากฐานข้อมูล Google Scholar ที่เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลบทความ
และค้นข้อมูลด้านงานวิจัยต่างๆ จากทั่วโลก และเป็นอันดับที่ 32 ของประเทศที่มีจำนวนสถาบันที่เปิดการเรียนการสอนกว่า 170 สถาบัน ทั่วประเทศ ความเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
เกิดจากผลงานการวางแผนการพัฒนามหาวิทยาลัย ตามแนวทางที่ท้าทายต่อการวางแผนพัฒนามหาวิทยาลัยว่าภายในปี
พ.ศ. 2563 มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิตจะต้องเป็นมหาวิทยาลัยที่ติดอันดับ
1 ใน 10 ของมหาวิทยาลัยเอกชนไทย
โดยมีนวัตกรรมหรือผลผลิตทางวิชาการที่ได้รับการยอมรับในระดับชาติและนานาชาติ โดยมุ่งเน้นการผลิตบัณฑิตที่เป็นนักปฏิบัติเชิงรุก
(PROACTIVE PRACTITIONER)
สามารถทำงานและดำรงชีวิตในศตวรรษที่ 21 ได้อย่างเข้มแข็งและมีความสุข
|
ดร.วัลลภ สุวรรณดี
อธิการบดี |
ดร.วัลลภ สุวรรณดี อธิการบดี
มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ได้กล่าวว่าการดำเนินงานบริหารมหาวิทยาลัยในยุคปัจจุบันนั้น
เป็นสิ่งที่สังคมคาดหวังถึงคุณภาพบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษามาก
เกษมบัณฑิตไม่หยุดที่จะพัฒนาบัณฑิตให้เป็นบัณฑิตที่มีคุณภาพในทุกมิติของการเรียนรู้ เราสอนให้บัณฑิตสามารถทำงานได้จริงควบคู่กับใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข ซึ่งสิ่งที่จะทำให้ก้าวสู่จุดนั้นได้
มหาวิทยาลัยจำเป็นต้องพัฒนาทั้งด้านวิชาการ และด้านสภาพแวดล้อม ภูมิทัศน์
ของมหาวิทยาลัยและ สิ่งสนับสนุนที่เอื้อประโยชน์ต่อการเรียนรู้
เพื่อก่อให้เกิดความสมดุลในทุกมิติ
นอกจากนี้ เกษมบัณฑิตยังพัฒนาหลักสูตรใหม่ๆ
ที่ตอบโจทย์การพัฒนาประเทศและการขาดแคลนแรงงานในด้านต่าง ๆ อาทิ การเปิดสอนในคณะด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ
ด้านสาธารณสุข ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านการออกแบบแฟชั่น หรือด้านธุรกิจการค้าปลีก
เพื่อเป็นทางเลือกที่หลากหลายในการสร้างอาชีพของตนเอง เพราะต้องยอมรับว่า
ช่วงเวลาไม่กี่ปีนี้มีสาขาอาชีพใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย
และคนรุ่นใหม่เองก็ต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจของตัวเองเพิ่มขึ้น
โดยมหาวิทยาลัยได้นำผลจากงานวิจัยต่างๆ มาประกอบข้อมูลในการพัฒนาหลักสูตรใหม่ๆ
เสมอ ซึ่งการเพิ่มศักยภาพงานวิจัยให้กับบุคลากรในมหาวิทยาลัยนั้น
เรามีหน่วยงานด้านวิจัยเป็นผู้รับผิดชอบ โดยมีผู้บริหารที่เชี่ยวชาญด้านงานวางแผน
อย่างดร.เสนีย์ สุวรรณดี
รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา เป็นผู้กระตุ้นและสร้างเสริม สนับสนุนให้บุคลากรได้ทำงานวิจัยอย่างต่อเนื่อง
|
ดร.เสนีย์ สุวรรณดี
รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา |
ดร.เสนีย์
สุวรรณดี รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา กล่าวว่า
ผลงานวิจัยที่ได้รับการติดอันดับ 7 “Top University by Google Scholar
Citations” จากการจัดอันดับ โดย www.webmetrics.info นั้น ส่วนหนึ่งมาจากการพัฒนางานด้านการวิจัยอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมา
วารสารวิชาการงานวิจัย ของมหาวิทยาลัย ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ใน กลุ่มที่ 1 หรือ
TCI 1 คือจะถูกคัดเลือกเข้าสู่ฐานข้อมูล ASEAN Citation Index
(ACI) ต่อไป จากศูนย์ดัชนีการอ้างอิงวารสารไทย (Thai-Journal Citation Index Centre : TCI) ซึ่งในวงการวิชาการนั้น
ได้รับการยกย่องว่าการจัดทำฐานข้อมูล
TCI จึงสามารถช่วยปรับปรุงคุณภาพผลงานวิจัยไทยได้ นอกจากนี้
งานด้านการวิจัยยังเป็นอีกหนึ่งภารกิจสำคัญที่มหาวิทยาลัยจะมีส่วนช่วยสังคม
โดยเฉพาะงานวิจัยที่มหาวิทยาลัยมุ่งเน้นคือ ต้องสามารถจับต้องได้จริง กล่าวคือ
เป็นงานวิจัยที่สามารถใช้ประโยชน์จากผลของงานวิจัย ที่ผ่านมาเกษมบัณฑิต
ดำเนินโครงการในลักษณะนี้ อาทิ การพัฒนาข้าวอ่อนหวาน จากสหกรณ์การเกษตรกรผักไห่
จำกัด โดย ดำเนินการอบรมด้านการบริหารจัดการธุรกิจ จัดทำแผนธุรกิจและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า
โดยเฉพาะการจัดทำบรรจุภัณฑ์ข้าวสารพันธุ์หอมชลสิทธิ์ขึ้นใหม่
ภายใต้เครื่องหมายการค้า “อ่อนหวาน”
ที่ขณะนี้จัดจำหน่ายทั่วประเทศและอยู่ระหว่างการจัดการด้านการส่งออกด้วย หรือ
ด้านการจัดการค้าปลีกที่มหาวิทยาลัยได้ลงพื้นที่เข้าร่วมพลิกฟื้นโอกาสทางธุรกิจแก่ร้านขายของชำทั้งปลีกและส่งสัญชาติไทย
ในชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศกว่า 400,000 แห่ง เป็นมหาวิทยาลัยแห่งเดียวในประเทศไทย
ที่เข้าร่วมพัฒนาและปฏิวัติภาพลักษณ์ร้านโชว์ห่วยใหม่ให้มีความทันสมัย
ไม่แพ้ร้านสะดวกซื้อ ให้ประชาชนผู้บริโภคหันกลับมาใช้บริการร้านขายของชำในชุมชนใกล้บ้านมากขึ้น
ไม่ให้ผู้ประกอบการเกิดความท้อแท้และปิดกิจการไป
ความสำเร็จที่เกิดขึ้นนี้
ทำให้งานวิจัยมีความยั่งยืนและต่อยอดสู่งานวิจัยในเรื่องต่างๆ ได้ โดยต้องอาศัยความร่วมมือกัน การทำงานเป็นทีม
เป็นความเข้มแข็งทางวิชาการที่คณาจารย์มีประสบการณ์วิจัยที่หลากหลาย
มารวมกันและแลกเปลี่ยนความรู้ โดยอาศัยหลัก การบริหารจัดการความรู้ KM (Knowledge Management) เกิดเครือข่างทางสังคมขึ้น ทำให้งานมีประสิทธิภาพ
ยกระดับงานวิจัยไทยให้มีความก้าวหน้าและเข้มแข็งขึ้น
ดร.เสนีย์กล่าวในตอนท้ายว่า เป้าหมายสูงสุดในการพัฒนามหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิตคือการเป็นสถาบันอุดมศึกษาที่ทรงคุณค่าได้รับการยอมรับทั้งในประเทศและนานาชาติ
เป็นแหล่งรวมขององค์ความรู้
บุคลากรเป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับมีความเป็นเลิศในศาสตร์ที่จัดการเรียนการสอนและที่สำคัญเกษมบัณฑิตคือการเป็นองค์กรแห่งความผาสุกสมาชิกทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันได้ภายใต้บรรยากาศแห่งความคิดสร้างสรรค์
ความสุข ความรักและภักดีต่อองค์
มีการทำงานเป็นทีมและมีความเป็นมืออาชีพคุณภาพชั้นนำอย่างแท้จริง
ปัจจุบันมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต มี 2 วิทยาเขตคือ วิทยาเขตพัฒนาการและวิทยาเขตร่มเกล้า ถนนร่มเกล้า
ตั้งอยู่ฝั่งกรุงเทพตะวันออก
ภายในมีหอพักนักศึกษาที่ให้บริการรองรับนักศึกษาได้มากกว่า 1,200 คน และมีนักศึกษาต่างชาติโดยเฉพาะจากประเทศจีน
นิยมเข้ามาศึกษาต่อที่นี่กว่า 800-1,000 คน
และเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกและแห่งเดียวที่นำเครื่องบินจริงมาไว้ในมหาวิทยาลัยเพื่อให้นักศึกษาได้ฝึกปฏิบัติจริง
ในสาขาวิชาธุรกิจการบิน สถาบันพัฒนาบุคลากรการบิน